พระธาตุขามแก่นหนึ่งในพระธาตุแห่งอีสาน
แต่เดิมจังหวัดขอนแก่นทิได้ชื่อขอนแก่น
หากแต่ชื่อ “ขามแก่น” ซึ่งประวัติความเป็นมาของชื่อนี้ก็สัมพันธ์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกแห่งหนึ่งด้วยนั้นก็คือ
“พระธาตุขามแก่น” ซึ่งตามประวัติความเป็นมามีอยู่ว่า
ตามประวัติความเป็นมามีอยู่ว่า
นับแต่การเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันขึ้น 15
ค่ำ เดือน 6 ไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน พระมหากัสสปะเถระเจ้า พร้อมด้วยพระอรหันต์
500 องค์ ได้นำเอาพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนอก) ไปประดิษฐานไว้ภูกำพร้า (พระธาตุพนมในปัจจุบัน)
พระยาหลังเขียว โมริยกษัตริย์ และพระอรหันต์ยอดแก้ว, พระอรหันต์รังษี,
พระอรหันต์คันที และไม่ปรากฏชื่ออีก 6 องค์
จึงเดินทางพร้อมอัญเชิญเอาพระอังคารธาตุเพื่อไปบรรจุไว้ในพระธาตุพนมด้วย
ระหว่างทางได้มาถึงพื้นที่แห่งหนึ่ง (ที่ตั้งของพระธาตุขามแก่นในปัจจุบัน)
มีพื้นที่พื้นที่ดอน ราบเรียบ มีห้วยสามแยก น้ำไหลผ่านรอบดอน
และมีต้นมะขามใหญ่ที่ตายแล้วเหลือแต่แก่นอยู่ต้นหนึ่ง ในขณะนั้นเป็นเวลาพลบค่ำพอดี
ประกอบกับพื้นที่มีความเหมาะสมจึงได้พักแรมที่นี่
และนำเอาพระอังคารธาตุไปวางพักไว้บนแก่นของต้นมะขามที่ตายแล้วดังกล่าว
พอรุ่งเช้าทั้งคณะก็เดินทางมุ่งหน้าสู่สถานที่ก่อสร้างพระธาตุพนมต่อไป
แต่พอไปถึงปรากฏว่าพระธาตุพนมได้ สร้างเสร็จแล้ว
ไม่สามารถนำพระอังคารธาตุบรรจุลงไปได้อีก
จึงจำต้องนำเอาพระอังคารธาตุนั้นกลับตามเส้นทางเดิม
โดยตั้งใจว่าจะนำกลับไปไว้ที่นครของตนตามเดิม เมื่อมาถึงดอนมะขามซึ่งเคยเป็นที่พักแรม
ครั้งก่อน ได้เห็นต้นมะขามใหญ่ที่ล้มตายเหลือแต่แก่นนั้นกลับผลิตดอก ออกผล
แตกกิ่งก้านสาขามีใบเขียวชะอุ่มแลดูงามตายิ่งนัก จะเป็นด้วยเทพเจ้าแสร้งนิมิต
หรือด้วยอำนาจอภินิหารของ พระอังคารธาตุก็มิอาจรู้ได้ เห็นเป็นอัศจรรย์เช่นนั้นจึง
พร้อมกันก่อสร้างพระธาตุครอบต้นมะขาม และบรรจุพระอังคารธาตุของพระเจ้าไว้ภายในด้วย
โดยมีรูปลักษณะดังที่เราเห็น อยู่ในปัจจุบันนี้ จึง เรียกชื่อพระธาตุนี้ว่า "พระธาตุขามแก่น"
และหลังจาการก่อสร้างพระธาตุเสร็จแล้ว พระยาหลังเขียวพร้อม
ด้วยบริวารได้สร้างบ้านแปลงเมืองอยู่ตรงนี้ และได้สร้างวัดให้เป็นที่พำนักของพระอรหันต์ทั้ง
9 องค์ ซึ่งมีวิหาร และพัทธสีมาเคียงคู่กับองค์พระธาตุสืบมา
ครั้นกาลล้วงมาพระอรหันต์ทั้ง 9 องค์ก็ได้ดับขันธ์ปรินิพพาน
ชาวเมืองนำเอาอัฐิธาตุของท่านบรรจุไว้ในพระธาตุองค์เล็ก
ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออกของ อุโบสถในเวลานี้ ต่อมาประชาชนจึงเรียกพระธาตุองค์ใหญ่ว่า
ครูบาทั้งเก้าเจ้ามหาธาตุ ส่วนพระธาตุองค์เล็กเรียกว่า ครูบาทั้งแปด
ส่วนงานฉลองและนมัสการพระธาตุขามแก่น
จะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 (ประมาณเดือนพฤษภาคม) การสักการะ ใช้ธูป เทียน
ดอกไม้ ขันแปดเก้า และในทุกวันขึ้น 15 ค่ำ ของทุกเดือนเชิญทุกท่านที่รักในการท่องเที่ยวไปกราบไหว้ซักครั้งในชีวิต
เรียบเรียงโดย "กินเที่ยวทั่วไทย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น