ปราสาทหินพนมรุ้ง
จังหวัดบุรีรัมย์นั้นมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นปราสาทหินมากมาย ปราสาทหินหนึ่งที่ขึ้นชื่อที่สุดคงจะเป็นที่อื่นไม่ได้นอกจาก “ปราสาทหินพนมรุ้ง”
ปราสาทหินพนมรุ้งนี้ตั้งในอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อยู่ที่บ้านตาเป็ก
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77
กิโลเมตร เดินทางโดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 218 สายบุรีรัมย์ -
นางรอง เป็นระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร
จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 สายสีคิ้ว -
อุบลราชธานี ไปจนถึงหมู่บ้านตะโก ประมาณ 14 กิโลเมตร
แล้วจึงเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2117 ผ่านบ้านตาเป๊ก
อำเภอเฉลิมพระเกียรติอีกประมาณ 12 กิโลเมตร
ก็จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
อีกเส้นทางหนึ่งให้เดินทางโดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 219
สายบุรีรัมย์ - ประโคนชัย เป็นระยะทางประมาณ 44 กิโลเมตร
ถึงตัวอำเภอประโคนชัย จะเห็นทางแยกที่จะไปอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
ซึ่งใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 21 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 2075
และเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2117 ก็จะถึงที่หมาย
ถ้าหากไม่ได้นำรถยนต์มาเองก็ให้ใช้บริการรถโดยสารจากขนส่งบุรีรัมย์
ก็ให้ขึ้นรถโดยสารสายบุรีรัมย์ - จันทบุรี พอถึงที่หมู่บ้านตะโก
แล้วจึงลงจากรถ จากนั้นจะมีรถสองแถววิ่งไปอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
ปราสาทหินพนมรุ้งนี้ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิดแล้ว สูงประมาณ 200
เมตรจากพื้นราบ หรือประมาณ 350 เมตรจากทะเลระดับปานกลาง “พนมรุ้ง” นั้นมาจากภาษาเขมรคำว่า “วนํรุง” แปลว่า “ภูเขาใหญ่”
จากหลักฐานที่ค้นพบทำให้ทราบว่าตัวปราสาทหินพนมรุ้งนั้นได้มีการบูรณะก่อ
สร้างอย่างต่อเนื่องหลายสมัยด้วยกัน เริ่มตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15
ถึงพุทธศตวรรษที่ 17 – 18
ซึ่งแต่ก่อนนั้นปราสาทหินพนมรุ้งนั้นเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย
จากจารึกต่างๆ
ที่พบพอจะสรุปได้ว่าปราสาทหินพนมรุ้งนั้นได้รับการสถาปนาเทวาลัยถวายพระ
อิศวรโดย พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 3 กษัตริย์แห่งเมืองพระนครประมาณ พ.ศ.
1487-1511
แต่การสร้างในยุคเริ่มแรกนั้นยังไม่ได้เป็นปราสาทใหญ่โตอย่างเช่นปัจจุบัน
ครั้งพอถึงสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ราวปี พ.ศ. 1511 - 1544
พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ได้ทรงอุทิศที่ดินและข้าทาสบริวารแด่เทวสถานพนมรุ้ง
ล่วงถึงพุทธศตวรรษที่ 17 นเรนทราทิตย์
เจ้านายแห่งราชวงศ์มหิทรปุระซึ่งเป็นพระญาติกับพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2
ผู้สร้างนครวัด พระองค์ปกครองดินแดนแถบนี้
ได้บูรณะและก่อสร้างปราสาทแห่งนี้ให้ใหญ่โตขึ้น
เพื่อถวายแด่องค์พระศิวะเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย
จึงเปรียบเสมือนเขาไกรราสอันเป็นที่ประทับของพระศิวะ
และเป็นศูนย์กลางของจักวาล
นอกจากนเรนทราทิตย์จะสร้างเป็นเทวสถานเพื่อถวายแก่องค์พระศิวะแล้วพระองค์
ยังได้ใช้ปราสสาทหินพนมรุ้งนี้เป็นที่บำเพ็ญพรตเป็นโยคี
ทว่าเมื่อพระเข้าชัยวรมันที่ 7
แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือพุทธศาสนาลักธิมหายาน
ก็ได้ปรับปรุงดัดแปลงให้สถานที่ท่องเที่ยวปราสาทหินพนมรุ้งเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนา โดยแต่เดิมนั้นปราสาทหินพนมรุ้งสร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู
ความมหัศจรรย์ของสถานที่ท่องเที่ยวปราสาท
หินพนมรุ้งนี้คือแสงอาทิตย์ที่ขึ้นจะตกนั้นจะตรงกันทั้งประตู 15
บานของปราสาทพร้อมๆ กัน ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นปีละ 4
ครั้งแต่ละครั้งจะมีระยะเวลาดังนี้
ครั้งที่ 1 ดวงอาทิตย์ตกในวันที่ 5 – 7 มีนาคม เวลา 18.15 – 18.22 น.
ครั้งที่ 2 ดวงอาทิตย์ขึ้นในวันที่ 2 – 4 เมษายน เวลา 06.05 – 06.12 น.
ครั้งที่ 3 ดวงอาทิตย์ขึ้นในวันที่ 8 – 10 กันยายน เวลา 05.56 – 06.05 น.
ครั้งที่ 4 ดวงอาทิตย์ตกในวันที่ 5 – 7 ตุลาคม เวลา 17.50 – 17.57 น.
ซึ่งเป็นเช่นนี้ทำให้เห็นถึงภูมิปัญญาและอัจฉริยภาพในการผสมผสานเทวศาสตร์ และดาราศาสตร์ในด้านสถาปัตยกรรม ของของโบราณได้เป็นอย่างดี
* เรียบเรียงโดย กินเที่ยวทั่วไทย
**ภาพจาก http://learners.in.th/blog/khuanroen/294995