เชียงของประตูสู่อินโดจีน
อำเภอเชียงของ
จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “เมืองแห่งแม่น้ำโขง”
และยังเป็นอีกหนึ่งอำเภอในประเทศไทยที่มีอาณาเขตติดกับประเทศลาว (สปป.ลาว)
อดีตเป็นเมืองที่ไม่น่าสนใจเท่าใดนัก
หากแต่ปัจจุบันเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆ ทางภาคเหนือ
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางข้ามไปยังแขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว (สปป.ลาว)
ทว่าอำเภอเชียงของไม่เพียงแต่เป็นทางผ่านเท่านั้น
อำเภอแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายเช่น
วัดพระแก้วและวัดหลวง
เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง และเป็นวัดที่เคารพศรัทธาของคนเมืองเชียงของ
(ของแปลว่าโขง) สร้างขึ้นมาตั้งแต่ครั้งตำนาน “ตำมิละ” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ลัวะ”
ผ่านยุคสมัยต่างๆ มากมากมายล่วงจนถึง “ขรรัฐ” ก่อนจะเป็นเชียงของในปัจจุบัน
วัดแห่งนี้นั้นเดิมเคยเป็นที่ประทับของพระแก้มรกต
ซึ่งชื่อของวัดก็มีความสัมพันกับเรื่องเล่าของลูกแก้วที่ลอยข้ามไปมาระหว่างสองประเทศ
ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ หรือประมาณเดือนธันวาคม (นับตามแบบล้านนาเมืองเชียงของ)
ทางวัดจะจัดให้มีงานสรงน้ำพระธาตุ
บ้านหาดบ้ายหาด-ทรายทอง
เป็นที่อยู่ของหมู่บ้านชาวไทลื้อ ซึ่งที่นี่นอกจากจะได้สัมผัสวิธีชีวิตของประชาชนท้องถิ่นแล้ว
ยังสามารถเลือกซื้อผ้าทอที่ขึ้นชื่อของประเทศ เรียกว่าผ้าทอไทลื้อ ซึ่งมีความสวยงามและดำรงเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
นอกจากจะได้เลือกซื้อผ้าสวยๆ แล้วยังสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนริมน้ำทั้งสองฝั่ง
โดยการนั่งเรือชม ซึ่งตลอดเส้นทางการเดินเรือนั้นจะเห็นความงามทางธรรมชาติ
ทั้งเกาะแก่งน้อยใหญ่ตั้งอยู่เรียงราย เกาะแก่งต่างๆ
เหล่านี้เป็นที่อยู่อาศัยของปลานานาชนิด
และยังเป็นแหล่งอาหารของชาวบ้านทั้งสองฝั่งอีกด้วย
เมืองเชียงของนอกจากจะมีแม่น้ำโขงกว้างใหญ่เป็นฉากที่สร้างความประทับใจแด่ผู้มาเยือนแล้ว
พระเอกอีกสิ่งหนึ่งที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้นั้นก็คือ “ปลาบึก”
ทุกปีช่วงเดือน เมษายน – พฤษภาคม จะมีเทศกาลการจัดปลาบึกที่บ้านห้วยไคร้ ตั้งอยู่ที่หม่ 12
ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ แต่เดิมปลาบึกนี้เป็นปลาที่ชาวบ้านจับขึ้นมาเป็นอาหารทั่วไป
ทว่าเมื่อมีกระแสการท่องเที่ยวเข้ามา
ปลาบึกจึงถูกจับนำมาขายแด่นักท่องเที่ยวและร้านอาหารมากมาย
ทำให้ปลาบึกเริ่มจะสูญพันธุ์ลงไป
ต่อมาทางชมรมปลาบึกจึงได้จัดให้มีการจับปลาบึกเฉพาะในช่วงเวลาที่ได้กล่าวไปแล้ว โดยก่อนจะจับปลาบึกนั้นจะมีพิธีเซ่นไหว้ผีหลวงหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเทพเจ้าปลาบึกซึ่งเป็นพิธีแต่เก่าก่อน
ต่อมาจึงเป็นงานบวงสรวงที่ใหญ่โตโดยขึ้นทุกปี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ปลาบึกที่เคยจับได้นั้นกลับไม่เคยโผล่ให้เห็น หรือมีให้เห็นก็น้อยมาก
จากสัตว์ที่ถูกล่าเพื่อนำมาเป็นอาหารปัจจุบันกลายเป็นสัตวืที่ชาวเชียงของอนุรักษ์และหวงแหนอย่างยิ่ง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น